การพกแบตสำรองไปไหนต่อไหนด้วยนั้น นอกจากสร้างความสบายใจให้กับผู้ใช้งานโทรศัพท์ได้แล้ว ยังสามารถช่วยเหลือเราในยามคับขันเมื่อโทรศัพท์แบตหมดระหว่างทางได้อีกด้วย และหากใครที่ชอบใช้งานโทรศัพท์ตลอดเวลาแทบจะวางมือไม่ได้เลย แบตสำรองก็จะเป็นผู้ให้พลังงานที่ดีในยามที่แบตโทรศัทพ์ของเราหมดลง แต่กระนั้นก็ยังมีบางคนที่สงสัยว่า เมื่อเราซื้อแบตสำรองราคาแพงมาแล้วทำไมการใช้งานนั้นไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปเลย นั้นอาจเป็นเพราะว่ามีการดูแลรักษาแบตสำรองอย่างผิดวิธี โดยการดูแลและรักษาแบตสำรองให้มีอายุการใช้งานที่นาน ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด อันดับแรกนั้นเราจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเก็บไว้ในที่ๆ สามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่เก็บไว้ที่มีความร้อนตลอดเวลา อย่างการวางไว้ในที่ๆ มีแสงแดดส่องถึง เพราะจะทำให้แบตสำรองเสื่อมไว อีกทั้งเราควรจะระมัดระวังในการถือแบตสำรอง พยายามอย่างที่จะไม่ทำแบตสำรองตกกระแทกพื้นหรือทำน้ำเข้าเครื่อง นอกจากนี้การใช้งานแบตสำรองแบบไม่หยุดพักจนเครื่องร้อนจี๊ด ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ต่อผู้ใช้งานได้ และที่สำคัญในขณะชาร์จโทรศัพท์ด้วยแบตสำรอง ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่ใช้งานโทรศัพท์ไปด้วย เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการของแบตสำรองนั้นลดน้อยลงไป อีกทั้งยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตของโทรศัพท์และแบตสำรองเสื่อมได้อีกได้อีกด้วย ดังนั้นเราควรใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นหรือแบตโทรศัพท์มีน้อยแล้วเท่านั้นจะดีที่สุด
SMS บอกรัก
ถ้าหากย้อนกลับไปในสมัยคุณพ่อคุณแม่หรือคุณตากับคุณยายยังหนุ่มสาว เราอาจจะเคยสงสัยหรือเคยถามพวกท่านว่า รู้จักกันหรือจีบกันได้อย่างไร แน่นอนว่าพวกท่านไม่มีแอพพลิเคชั่นน่ารักๆ ไว้ส่งข้อความดุ๊กดิ๊กหรือส่งสติ๊กเกอร์ไลน์หากัน แล้วพวกท่านทำอย่างไรล่ะ การส่งข่าวหรือข้อมูลหากันในยุคนั้นอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยากและใช้เวลาอยู่พอสมควร ไม่รวดเร็วและทันใจอย่างในทุกวันนี้ สมัยนั้นการสื่อสารที่แพร่หลายเลยคงหนีไม่พ้นจดหมายซองน้อยๆ ที่จะมีสุภาพบุรุษเจ้าประจำค่อยปั้นจักรยานนำมาส่งให้ถึงหน้าบ้าน อัตราค่าบริการก็เพียงแค่ไม่กี่สลึงจนถึงไม่กี่บาท และส่วนใหญ่มักจะมีข้อความหวานๆเขียนไว้ตรงที่ปิดผนึกว่า “ยิ้มก่อนอ่านตาหวานก่อนเปิด” เด็กอย่างเราอ่านแล้วอาจจะรีบวิ่งไปอ้วกหรือไม่ก็เขินแทนจนบอกไม่ถูก แต่ความนิยมทุกอย่างก็ย่อมมีการแปรเปลี่ยนอยู่เสมอ ย้อนกลับราวๆ 5-6 ปีก่อนที่เริ่มมีโทรศัพท์มือถือบ้างแล้ว แต่แอพพลิเคชั่นมากมายในโทรศัพท์ของเราจะมีมากมายจนเลือกไม่ถูกว่าจะใช้อันไหนดียังไม่เกิดขึ้น การส่ง SMS ดูเหมือนจะเป็นเพียงไม่กี่ช่องทางที่ทำให้เราส่งข้อความไปหาคนรู้ใจได้อย่างสะดวกที่สุด ความนิยมการสรรหาคำหวานๆ นั้นค่อนข้างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นกลอนสั้นๆ คำคล้องจ้องหวานๆ เพราะการกดส่งข้อความ SMS แต่ละครั้งต้องเสียเงิน 2-3 บาท ไม่ฟรีเหมือนทุกวันนี้จึงต้องสรรหาถ้อยคำที่เหมาะสมและดีที่สุดเพื่อคนที่พิเศษที่สุด ตัวอย่างเช่น “จะบ้าไปถึงไหน ส่ง SMS มาอยู่ได้ …ชอบจัง” “มีรักมาให้ มีใจมาฝาก แต่หอบมา ลำบาก เพราะมัน มากเหลือเกิน” “คบคนล้าน...